ตารางเปรียบเทียบอัตราสูญเสียของสายนำสัญญาณชนิดต่างๆ (นำไปป้อนใส่เครื่อง Access Point)

[ลุงเปี๊ยก ที-เน็ตเวิร์ค (อ.สากเหล็ก)]

ตารางเปรียบเทียบอัตราสูญเสียของสายนำสัญญาณชนิดต่างๆ
(นำไปป้อนใส่เครื่อง Access Point)

เป็นการเลือกสายนำสัญญาณเบอร์ต่างๆมาใช้ทำสายลีด (Lead) สำหรับงานสายอากาศ wifi สำหรับในบ้านเราจะหาซื้อง่ายๆ ก็มีประมาณในตารางด้านล่าง

แต่เราเลือกนำมาใช้ในเบื้องต้น 2 แบบ คือสายนำสัญญาณเบอร์  RG58 และ LLC200 ทั้งสองเบอร์นี้เท่าที่ทดลองนำมาใช้กับย่านความถี่ 2.4 GHz. ที่ช่วงระยะสาย 1-2 เมตร นั้นให้ผลแทบไม่แตกต่างครับ

แต่ถ้าเป็นย่าน 5.8 GHz. ไม่แนะนำให้ใช้สาย RG58 ครับ อันนี้มีผลแน่นอน เพราะมันเฉียดฉิวเกินไปกับการรองรับแค่ 5 GHz.


ฉะนั้นบางงานที่นำเสาเราไปใช้ ทางบริษัทจะแนะนำให้ใช้สาย RG58 แทน เช่น บางกลุ่มอาชีพนำไปใช้กับกล้องวีดีโอถ่ายทอดสดระยะไกล ต่อเข้าชุดระบบรับ-ส่ง Video Sender เพราะเจ้าเครื่องนี้กำลังส่งสูง 1-5 วัตต์ (1000-5000 มิลลิวัตต์ แล้วแต่ยี่ห้อ) ทำให้ไม่มีผลในค่า Loss และมีการถอดสายเข้า-ออกเคลื่อนย้ายบ่อย ถ้าไปใช้สาย LLC200 สายอาจมีการหักในได้ง่ายๆ เพราะแกนกลางมีอันเดียว ต่างกับ RG58 ที่มีแกนกลาง 5-7 เส้น จึงยืดหยุ่นได้ดีกว่า

[Support th-net]

การนำค่า Loss ไปป้อนในเครื่อง AP บางยี่ห้อ


ที่ความถี่ 2.5 GHz.

สาย LLC200 ค่า Loss อยู่ที่

= 55.4 dB / 100 เมตร = 0.554 dB / เมตร = 0.00554 dB / ซม.

สาย RG-58 ค่า Loss อยู่ที่

= 142 dB / 100 เมตร = 1.420 dB / เมตร = 0.0142 dB / ซม.

*** คิดง่ายๆเลย ใช้สายลีดยาวกี่เซ็นต์ ก็คูณจำนวนเซ็นต์เข้าไป จบข่าว  ***
สาย LLC200       0.00554 x ซม. = ?
สาย RG58          0.0142 x ซม. = ?


ปกติทางบริษัทเราจะแม็ชสายอากาศที่ระยะสาย 120 ซม. ก็จะได้ตามด้านล่าง
 LLC200 เท่ากับ 0.665 dB
 RG-58   เท่ากับ 1.704 dB

บางท่านมาเห็นค่า loss ของสาย2เบอร์นี้แล้วตกใจ ว่ามันโด่งขนาดนั้น บริษัทฯนี้บ้าปล่าว บอกนำมาแทนได้
แต่ในความเป็นจริงอย่าวิตกให้เกินเหตุครับ มันมีผลไม่มากกับระยะทางที่เราต้องการ เดี๋ยวจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ มันไปมีผลในสายที่ยาวมากๆครับ เวลาเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น ค่าต่างๆนี่แหละจะถูกนำมาคิดทบทวนใหม่ว่าระยะทางที่ต้องการ+กำลังส่งของเครื่อง AP มันตรงตามจุดประสงค์เราหรือไม่ เราดูตรงนี้ครับ








ที่มา...
www.teeneewireless.com/สายนำสัญญาณ